นาฬิกาสัญชาติสวิสเซอร์แลนด์อย่าง Rolex ( โรเลกซ์ ) เป็นนาฬิกาชั้นสูงที่มีราคาแพง หรูหรา ทรงคุณค่า ทั้งทางคุณภาพและทางจิตใจ เรามาดูการเดินทางของแบรนด์ Rolex กัน แบรนด์ที่กลายเป็น Icon นาฬิการะดับ Luxury เป็นมาอย่างไร
ประวัติความเป็นมาของ Rolex ( โรเลกซ์ )
Rolex เป็นหนึ่งในแบรนด์ระดับโลกที่ทรงพลังที่สุด และ เป็นคำขวัญสำหรับความสำเร็จ แต่ก็เหมือนทุกอย่างมันต้องเริ่มต้นที่ไหนซักแห่ง สำหรับ Rolex นั้นเริ่มต้นจาก Hans Otto Wilhelm Wilsdorf ซึ่งเป็นผู้ประกอบการชาวบาวาเรียซึ่งในปี 1905 ตั้งร้านค้าที่ 83 Hatton Gardens ในย่านเครื่องประดับของลอนดอน กับ Alfred Davis น้องชายของเขา
ในตอนแรก บริษัท Wilsdorf & Davis เป็นเพียงผู้นำเข้านาฬิกาอีกด้านหนึ่งของอุตสาหกรรม Wilsdorf คุ้นเคยกับการทำงานกับ บริษัท สวิสชื่อ Cuna Korten ในเจนีวา ของขวัญสำหรับภาษาของเขาใช้ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมันได้อย่างคล่องแคล่วหมายความว่า เขารับผิดชอบในการติดต่อกับ บริษัท ประสบการณ์ คือ การทำให้เขามีพื้นฐานที่แข็งแกร่งในด้านการตลาด รวมทั้งปลูกฝังความรักในเรื่องศาสตร์
นาฬิกา Wilsdorf & Davis ที่ซื้อมานั้น มีแหล่งมาจากทั่วสวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงส่วนอื่น ๆ ของสหราชอาณาจักร และ มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป สิ่งเหล่านี้ถูกขายให้กับ เครือข่ายผู้ค้าปลีก ซึ่งมักจะวางชื่อของตัวเองบนหน้าปัด โลโก้ W & D หากปรากฏขึ้นทั้งหมด จะถูกประทับตราภายในตัวเรือน อย่างไรก็ตามในขณะที่ธุรกิจของเขา ประสบความสำเร็จมากที่สุด ในการค้าขายในเวลาเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Wilsdorf ทำให้ภารกิจของเขาที่ จะมีชื่อแบรนด์ของเขา รวมอยู่ในนาฬิกาทุกเรือน ที่เขาส่งออกออกไป
ที่มา 5 ตัวอักษรที่สื่อถึงความเหนือระดับ
Rolex ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ.1908 โดย Hans Wilsdorf ชายชาวเยอรมัน โดยตอนแรกตั้งชื่อบริษัทว่า Wilsdorf and Davis โดยเขาได้หุ้นกับน้องเขยในการสร้างมันขึ้นมา โดยในขณะนั้น การสร้างนาฬิกาแบบพก ที่สวิสเซอร์แลนด์ยังประสบปัญหาอยู่มาก คือ ต้องการทำให้มีขนาดเล็กลง พกพาง่าย แต่ต้องแม่นยำเชื่อถือได้ เพื่อนำมาใส่ในเป็นนาฬิกาข้อมือ
Rolex เป็นนาฬิกาอันเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณของ Hans Wilsdorf ผู้ให้กำเนิดอย่างแยกไม่ออก ตอนปี 1905 Hans Wilsdorf อายุ 24 ปี ได้ก่อตั้งบริษัทขึ้น ณ กรุงLondon ซึ่งเป็นบริษัทอันชำนาญด้านการจัดจำหน่ายนาฬิกา ณ ตอนนั้นนั่นเองที่ เขาก็เริ่มร่างแบบในการได้สวมใส่นาฬิกาไว้บนข้อมือ ในขณะนั้นนาฬิกาข้อมือยังไม่ได้มีความเที่ยงตรงมากนัก แต่ Hans Wilsdorf คิดว่านาฬิกาข้อมือไม่ใช่แค่ความหรูหรา แต่ยังควรเที่ยงตรงอีกด้วย
Hans Wilsdorf เป็นผู้ค้นหาความสมบูรณ์แบบ เพื่อใช้ในการพัฒนาเครื่องให้มีขนาดเล็กลง แต่เพิ่มความเที่ยงตรงเข้ามา เพื่อนำมาใช้กับนาฬิกาข้อมือ อันสามารถแสดงออกถึงสไตล์ รวมทั้งรสนิยมส่วนตัว
ต่อมาปี 1931 Rolex ได้สร้าง Rotor เป็นอุปกรณ์รูปครึ่งวงกลมซึ่งสามารถหมุนได้อย่างเสรี ทำให้เกิด Perpetual อัตโนมัติขึ้นมานั่นเอง
ว่ากันว่าสิ่งที่ทำให้ Rolex มีความโดดเด่นเหนือนาฬิกาแบรนด์อื่น ๆ คือ จิตวิญญาณของ Hans Wilsdorf ที่ใส่ลงไปจนเปี่ยมล้น ทั้งรูปทรงกลมขนาดใหญ่ของหน้าปัด สอดคล้องกับสายขนาดกว้าง เป็นความงดงามอย่างลงตัว อันมองเห็นได้แต่ไกล ซึ่งสามารถพิสูจน์ความเป็นอมตะไว้อย่างยั่งยืน ถึงแม้ Rolex จะมีพัฒนาการด้านรูปลักษณ์ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แต่นั่นก็เป็นแค่รายละเอียดเล็ก ๆ ถ้านับจาก Rolex รุ่น Datejust 1945 มาจนถึงรุ่นปัจจุบัน คุณจะสัมผัสได้ว่า ตัวเครื่อง และชิ้นส่วนภายในแทบจะไม่มีชิ้นไหนเหมือนกันเลย แต่รูดีไซน์ภายนอก กลับเปลี่ยนไปแค่เล็กน้อยเท่านั้น จึงทำให้คุณค่าเหนือกาลเวลาของ Rolex กลายเป็น การลงทุนอันชาญฉลาด สำหรับนักสะสมหลายคน ที่รับเอาความมุ่งมั่นของ Hans Wilsdorf มาสวมไว้ตรงข้อมือ นอกจากนี้การประมูลนาฬิกา Rolex รุ่นเก่า ๆ สามารถสร้างกระแสให้เกิดขึ้นได้เสมอ ๆ
ถึงแม้ Hans Wilsdorf จะอาศัยอยู่ในเจนีวามานานกว่า 40 ปี แต่ Hans Wilsdorf ก็ไม่เคยได้สัญชาติสวิส เขาเสียชีวิตลงในปี 1960 ณ เมือง Briton ชื่อของเขาถูกโลกจารึกในฐานะ เป็นคนรวยอารมณ์ขัน มีความรักครอบครัวพอ ๆ กับนาฬิกา ชอบแสวงหาสิ่งใหม่ในการทำให้นาฬิกาดีขึ้น เป็นชีวิตจิตใจ และต่อจากนั้นอีก 2 ปีต่อมา André Heiniger ทีร่วมงานมากับ Hans Wilsdorf มา 12 ปีก็ก้าวสู่ตำแหน่ง MD แทน André Heiniger เป็นชายที่เต็มไปด้วยพลัง และ ความคิดเชิงบวก เขาได้พา Rolex ผ่านมรสุมได้ในเวลาต่อมา