กว่าจะมาเป็น Patek Philippe Aquanaut
Patek Philippe ถือว่าเป็นแบรนด์นาฬิกาสุดหรู อีกหนึ่งแบรนด์ ที่มีความนิยมไม่แพ้นาฬิกาหรู ๆ หลาย ๆ แบรนด์เลย กับวัสดุ งานประกอบ ที่เปี่ยมไปด้วย เรื่องราว และ คุณภาพ ความพิถีพิถัน ล้วนแล้วแต่อยู่ในนาฬิกา Patek Philippe นี้ทั้งสิน
Patek Philippe Aquanaut นาฬิกาอีกหนึ่งรุ่น ที่ถูกขนานนามว่าเป็นทายาทผู้สืบทอดความงดงามล้ำค่า จากนาฬิการุ่นดังในตำนานอย่าง Nautilus ด้วยการออกแบบที่ Aquanaut ได้รับแรงบันดานใจส่วนมากมาจาก Nautilus ทำให้ทั้งสองพี่น้องนี้ มีความแตกต่างกันไม่มากนัก แต่อย่างไรก็ตามด้วยราคาของ Aquanaut ที่มีราคาที่สามารถเอื้อมถึงได้ง่ายกว่า วันนี้เราจึงได้นำบทความประวัติกว่าจะเป็น Patek Philippe Aquanaut มาให้อ่านกัน
นาฬิกาผู้เป็นทายาทของ Nautilus
ในปี 1976 ทาง Patek Philippe ได้เปิดตัวนาฬิกาแห่งศตวรรษที่ 20 คือ Nautilus Ref. 5711 รุ่นพี่ของ Aquanaut เป็นนาฬิกาที่ผลิตจากวัสถุ Steel ทั้งเรือนเป็นครั้งแรก และถือว่าเป็นนาฬิการุ่นที่สามารถกู้สถานะการให้กับทางแบรนด์ได้เป็นอย่างดี เนื้องด้วยวิกฤตการณ์ Quartz Crisis
Patek Philippe Nautilus ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด Casual Luxury ซึ่งนาฬิการุ่นที่ยังสานต่อแนวคิดเดิมก็คือรุ่น Aquanaut ที่ก็ยังได้รับอิทธิพลมาจาก Nautilus โดย Aquanaut ถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 1997 Patek ได้เผยโฉม Aquanaut ออกมาสองรุ่น คือ 5060A ทำจาก Stainless teel และ และ 5060J ที่ทำจาก 18k Yellow gold ทั้งสองรุ่นมีหน้าปัดขนาด 36 มิลลิเมตร หน้าปัดของ Aquanaut จะมาในรูปแบบกรอบโค้งมนทรงแปดเหลี่ยม
Aquanaut ถึงแม้จะได้รับแรงบันดานใจจาก Nautilus แต่ก็มีจุดที่แตกต่างอยู่ เช่น
การใช้สายรัดข้อมือที่วัสดุต่างกัน ซึ่งสายของ Nautilus เป็น Steel แต่ Aquanaut เป็นรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ Patek Philippe ที่ใช้ Rubber strap ( สายข้อมือแบบยาง )
Dial ( หน้าปัด ) โดยหน้าปัดของ Nautilus จะเป็นลายลูกฟูก เรียงเป็นเส้นแนวนอน ส่วนทาง Aquanaut หน้าปัดจะถูกตกแต่งด้วยลาย Central Raised Guilloche Motif แบบตาราง หากสังเกตด้วยจินตนาการ เราคงอดนึกถึงลายบนช็อกโกแลตแผ่นไม่ได้ หน้าปัด Aquanaut เลยมีชื่อเล่นว่า Chocolate Bar และลวดลายนี้ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคอลเลคชั่น Aquanaut ในเวลาต่อมา
Integrated Bracelet โดยของรุ่น Nautilus ใช้เป็น Integrated Bracelet คือ สายนาฬิกาข้อมือที่ได้ถูกออกแบบมาให้ต่อจากตัวเรือน และหากสังเกตตรงพื้นที่ระหว่างสาย และตัวเรือนของ Aquanaut เราจะเห็นว่ามีช่องว่างระหว่าง Lugs (ขา) และตัวเรือน จุดนี้แสดงให้เห็นว่าAquanaut ไม่ใช้ integrated bracelet อย่างไรก็ตาม Aquanaut ก็ได้ทำพื้นผิวหรือลายบนสายรัดข้อมือยางสะท้อนให้เห็นถึงแพทเทิร์นบนหน้าปัดของนาฬิกา ให้มีลายเดียวกันเพื่อสื่อถึงการเชื่อมต่อเนื่องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน อย่างสาย Integrated bracelet
อีกข้อแตกต่าง คือ Aquanaut จะไม่มีส่วน ears ที่ยื่นออกมาจากด้านข้างทั้งสองเหมือนกับ Nautilus และดูโค้งมนมากกว่า ถึงแม้ Patek Philippe จะเป็นแบรนด์ที่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางเทือกเขา Swiss Alps แต่ทางแบรนด์ก็ได้แสดงให้เห็นถึงความหลงไหลที่มีต่อท้องทะเลมากอยู่ไม่น้อย ผ่านทางนาฬิกาอย่าง Nautilus และ Aquanaut ซึ่งส่วนกรอบของ Nautilus ที่ถูกออกแบบโดย Gerald Genta นักออกแบบนาฬิกาชื่อดัง ภายใต้แนวคิด Twenty thousand leagues under the seas ซึ่งนักออกแบบได้นำแรงบันดานใจจาก Marine Porthole (หน้าต่างเรือดำน้ำ) มาออกแบบเป็นกรอบของตัวเรือน Nautilus
ตำแหน่งของ Date window ( ช่องบอกวันที่ ) ของรุ่น Nautilus ถูกจัดวางไว้ตรงตำแหน่งเลขสามของหน้าปัด ซึ่งทำให้เลขสามถูกกำจัดออกในทั้งสองรุ่น แต่ Aquanaut ได้มีการเลื่อน Date window เข้าไปยังจุดศูนย์กลางของหน้าปัดเล็กน้อย จึงมีพื้นที่สำหรับใส่ Hour marker (ขีดบอกเวลา) ไปยังด้านข้างของช่องบอกวัน ต่างกับ Nautilus ที่มีเพียงแค่ Date Window
เอกลักษณ์ของ Aquanaut
Aquanaut ไม่ได้มีเอกษณ์แค่ลวดลายตารางบนหน้าปัดเท่านั้น แต่ก็ยังมีอีกมำตามที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว Aquanaut เป็นนาฬิการุ่นแรกที่เริ่มหันมาใช้สายข้อมือทำด้วยยางเป็นครั้งแรก ซึ่งถูกขนานนามว่าสายนาฬิกา Tropical ด้วยความเป็นสายยาง ทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกใส่สบาย กระชับข้อมือ และด้วยวัสดุที่ถูกออกแบบให้เป็นสายนี้ มีส่วนผสมกว่า 20 ชนิด เพื่อให้การใส่รู้สึกสบายที่สุด และทาง Patek Philippe ต้องการจะเข้าถึงคนที่มีอายุน้อย ด้วยนาฬิการุ่นนี้ ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้จะมีไลฟ์สไตล์ที่ค่อนข้างเต็มไปด้วยความสนุกสนาน และการผจญภัย ทางแบรนด์จึงได้เลือกที่จะใช้สายรัดข้อมือแบบยางแทน Aquanaut สามารถกันน้ำได้ลึกมากถึง 120 เมตร ผู้สวมใส่สามารถดำดิ่งลึกลงไปในท้องทะเลหรือว่ายน้ำในสระไปพร้อมกับนาฬิการุ่นนี้ และความทนทานต่อสิ่งต่าง ๆ
