Rolex Submariner นาฬิกาล้ำค่าของ McQueen
นาฬิกา Rolex Submariner ของ Steve McQueen นาฬิกาของดาราเจ้าของฉายา King of Cool ที่หายไป แต่ก็ไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะนาฬิกาเรือนนี้ได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งและนี่คือประวัติอันลึกลับของนาฬิกาในตำนานเรือนนี้
Steve McQueen และ Paul Newman ถือว่าเป็นคู่หูที่ ภาพยนตร์เรื่องต่างๆ ที่ทั้งคู่แสดงนำต่างก็ผลัดกันขึ้นครองตำแหน่งภาพยนตร์ทำเงินในการจัดอันดับ Box Office ตลอดช่วงยุค 60 และ 70 หลายปีหลังจากที่ทั้งคู่ได้จากโลกนี้ไปโดย McQueen เสียชีวิตในวัย 50 ปีในปี 1980 ส่วน Newman เสียชีวิตในปี 2008 ขณะที่มีอายุ 83 ปี ชายสองคนนี้ก็ยังไม่หยุดการประชันขันแข่งกันว่าของที่ระลึกของใครจะมีสนนราคาสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
นาฬิกา Rolex Daytona ปี 1968 ของ Paul Newman ซึ่งมีหน้าปัด สวยแปลกตา มีสีขาวและแดง ซึ่งภายหลังผู้คนรู้จักกันในชื่อ Paul Newman Daytona เพราะว่า Newman สวมใส่นาฬิการุ่นนี้ และได้เปิดประมูลที่ห้องค้าของบริษัทรับจัดประมูลอย่าง Phillips ที่ New York โดยมีผู้ที่ชนะการประมูลให้ราคาสูงจนน่าตกใจถึง 17.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ราคาประมูลที่สูงลิ่วดังกล่าวไม่ได้เป็นเพียงสถิติราคาประมูลนาฬิกา Rolex ( โรเล็กซ์ ) ที่สูงที่สุดเท่านั้น หากแต่ยังเป็นราคาประมูลนาฬิกาข้อมือที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาอีกด้วย
McQueen มอบ นาฬิกา Rolex Submariner 1964 ให้กับ Loren
ในช่วงปลาย ค.ศ. 1970 McQueen ได้มอบนาฬิการุ่น Submariner เรือนที่เก่ากว่าให้กับนักแสดงแทนคู่ใจของเขา คือ Loren Janes ทั้งคู่ร่วมงานกันยาวนาน 2 ทศวรรษ Janes แสดงแทน McQueen ในฉากเสี่ยงอันตรายอันเป็นที่น่าจดจำมากที่สุดหลายต่อหลายฉากในภาพยนตร์ทั้งหมด 19 เรื่อง ซึ่งรวมถึง Bullitt, The Getaway และ The Thomas Crown Affair รวมถึงฉากขับรถรุกไล่กันความยาว 10 นาทีอันโด่งดังในภาพยนตร์เรื่อง Bullitt ที่ McQueen ควบรถ Mustang ปี 1968 ไปทั่ว San Francisco เพื่อเป็นการตอบแทนผลงานการแสดงและมิตรภาพของ Janes McQueen ได้จ้างช่างให้สลักข้อความว่า “แด่ Loren นักแสดงแทนที่เจ๋งที่สุดในโลก จาก Steve” ลงบนฝาด้านหลังของนาฬิกา ทำให้กลายเป็นนาฬิกาของ McQueen เพียงเรือนเดียวที่มีชื่อของเขาปรากฏอยู่ เป็นเวลานานหลายทศวรรษทีเดียวที่ผู้คนเข้าใจกันว่านาฬิกาของ McQueen ได้สูญหายไป จนกระทั่งในเดือนกรกฎาคม 2016 เมื่อเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งประวัติศาสตร์อย่าง Sand Fire ใน Los Angeles เป็นเวลานานเกือบ 2 สัปดาห์ ไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่นี้ได้เผาผลาญบ้านเรือนใน Canyon Country ไหม้ไปทั้งหมด 18 หลัง หนึ่งในนั้นก็คือบ้านที่ Janes ซึ่งป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์อาศัยอยู่กับภรรยามา ในช่วงทศวรรษ 1990 (Janes เสียชีวิตในเดือนมิถุนายน 2017) ซึ่งนาฬิกา Submariner ของ McQueen ก็โดนไปด้วย แต่เมื่อไฟมอดลอง ก็ได้กลับไปขุดค้นใต้กองเถ้าถ่านแล้วสิ่งที่น่าดีใจคือน เราเจอนาฬิกาเรือนนั้น
Loren Janes ผู้ที่ทำงานเป็นสตันท์แมนให้กับ McQueen กว่า 2 ทศวรรษ ถึงวันนี้ไม่มีใครคาดคิดว่านาฬิกา Rolex ซึ่งเหลือรอดจากหายนะแห่งเปลวเพลิงเช่นนั้นจะกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง แต่ Eisenberg ได้แนะนำให้ครอบครัว Janes นำนาฬิกาไปที่ Gearys ร้านนาฬิกาหรูใน Beverly Hills เพื่อให้ช่างมืออาชีพซ่อมแซม Gearys ได้ส่งต่อนาฬิกาเรือนนั้นไปที่สำนักงานใหญ่ของ Rolex ใน New York ทันที และก็ทำให้นาฬิกาเรือนนี้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยยังเก็บรักษาฝาด้านหลังที่จารึกเรื่องราวอันทรงคุณค่าเอาไว้ Rolex ได้ส่งนาฬิกาคืน Erika Janes พร้อมแนบจดหมายเน้นย้ำถึงประวัติอันสุดแสนพิเศษของนาฬิกาเรือนนั้นไปด้วย จดหมายซึ่งเขียนโดยผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้ามีเนื้อความว่า “เรื่องราวที่คุณได้กรุณาแบ่งปันกับ Rolex Jeweler อย่างเป็นทางการของเราเป็นบทพิสูจน์แสนมหัศจรรย์ถึงความทนทานของนาฬิกา Rolex พ่อของคุณโดยความทุ่มเทที่แสดงให้เห็นผ่านศิลปะการแสดงของท่าน เพื่อนนักแสดงแทนของท่าน บรรดาดาราที่ท่านสวมบทบาทแทน ซึ่งรวมถึงมิตรและผู้มอบนาฬิกาเรือนนี้ให้เป็นของขวัญอย่าง Mr. Steve McQueen
Rolex Submariner ไม่มีดาราคนไหนมีเสน่ห์ดึงดูดเหมือน Steve McQueen ตำนาน King of Cool ผู้ใช้ชีวิตจริงอย่างมีสีสันราวกับอยู่ในภาพยนตร์ เมื่อนาฬิกาได้รับการซ่อมแซมจนใช้งานได้แล้ว Eisenberg ได้ยื่นข้อเสนอที่มีมูลค่ามหาศาลกับครอบครัว Janes ว่าเขาต้องการจะซื้อนาฬิกาเรือนนั้น อย่างไรก็ตามเขาปฏิเสธที่จะเปิดเผยถึงมูลค่าของข้อเสนอดังกล่าว หลังจากที่ได้นำนาฬิกาไปทดลองตีราคาอีก 2-3 ครั้ง ตระกูล Janes ก็ตอบรับข้อเสนอของ Eisenberg
Steve McQueen มีของสะสมเยอะ และเป็นดาราที่มีเสน่ห์ดึงดูด เพราะว่าผู้คนมองว่าเขาเป็นลูกผู้ชายตัวจริง ซึ่งใช้ชีวิตจริงอย่างมีสีสันราวกับอยู่ในภาพยนตร์ และก็เป็นเพราะว่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเสื้อผ้าที่ตัวเขาครอบครองนั้นเป็นของหายาก บรรดานักสะสมรถยนต์ปกติแล้วจะยอมจ่ายเงินมากเป็นพิเศษสำหรับยานพาหนะที่ครั้งหนึ่ง McQueen เคยเป็นผู้ครอบครอง ในปี 2011 รถยนต์ Porsche 911S ปี 1970 ของเขาซึ่งเคยปรากฏโฉมเพียงสั้นๆ ในภาพยนตร์เรื่อง Le Mans มีผู้ประมูลไปในราคา 1.38 ล้านเหรียญ (รถยนต์รุ่นเดียวกันนี้ถ้าไม่มีความเกี่ยวข้องกับ McQueen ก็จะซื้อขายกันในราคาประมาณ 75,000 เหรียญ)
นาฬิการุ่น Submariner ของ McQueen ได้รับการตีราคาก่อนขายที่ไม่สูงนัก ซึ่งอยู่ระหว่าง 300,000-600,000 เหรียญ สำหรับราคาขายสูงสุดที่นาฬิกาของ McQueen จะทำได้ในตอนนั้น Eisenberg ไม่เชื่อว่าราคานั้นจะสามารถแซงหน้านาฬิกาของ Newman ได้ แต่เขาก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง จนปัจจุบันอยู่ที่ 17.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ